- วิธีเดินทางไปศาลเจ้าอะโอชิมะในมิยาซากิ: คู่มือการเข้าถึงและที่จอดรถแบบครบถ้วน
- แนะนำวิธีเดินทางไปศาลเจ้าอะโอชิมะในมิยาซากิอย่างชัดเจน พร้อมคู่มือการเดินทางด้วยรถไฟ รถบัส หรือรถยนต์ รวมถึงข้อมูลที่จอดรถใกล้เคียง
อัปเดตล่าสุด:

อะโอชิมะเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ลอยเงียบสงบอยู่กลางทะเลของจังหวัดมิยาซากิ และตรงกลางของเกาะคือที่ตั้งของศาลเจ้าอะโอชิมะ ศาลเจ้าที่มีทัศนียภาพโดดเด่นและแตกต่างจากที่อื่นในญี่ปุ่น
รอบเกาะเต็มไปด้วยแนวหิน “โอนิโนะเซนทาคุอิตะ” เส้นทางอธิษฐานที่ประดับด้วยแผ่นเอมะจำนวนมาก และทางเดินลึกลับที่โอบล้อมด้วยพืชพรรณแบบเขตร้อน นอกจากนี้ยังมีจุดขอพรความรักและการเสี่ยงทายแบบเฉพาะของเกาะแห่งนี้อีกด้วย
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักเสน่ห์ทั้งหมดของศาลเจ้าอะโอชิมะอย่างครบถ้วน

ศาลเจ้าอะโอชิมะตั้งอยู่บนเกาะอะโอชิมะ เมืองมิยาซากิ เกาะทั้งเกาะปกคลุมด้วยพืชพรรณกึ่งเขตร้อน ทำให้มีบรรยากาศแบบรีสอร์ตต่างประเทศ ซึ่งหาชมได้ยากในศาลเจ้าญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงมาตั้งแต่อดีตในฐานะสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับตำนานญี่ปุ่น และปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฐานะศาลเจ้าขอพรด้านความรัก จึงเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของมิยาซากิ
| รายการ | รายละเอียด |
|---|---|
| ชื่อ | ศาลเจ้าอะโอชิมะ |
| เวลาเปิด | 6:00–พระอาทิตย์ตก |
| เวลาให้บริการของสำนักงานศาลเจ้า | ฤดูร้อน: 8:00–17:00 / ฤดูหนาว: 8:30–17:00 |
| วันหยุด | ไม่มี (เปิดตลอดปี) |
| ที่จอดรถ | ไม่มีที่จอดรถเฉพาะ (มีที่จอดสาธารณะและเอกชนใกล้เคียง) |
| ที่ตั้ง | 2 - 13 - 1 Aoshima, Miyazaki - shi, Miyazaki 889 - 2162 |
| เว็บไซต์ทางการ | https://aoshima-jinja.jp/ |
ตั้งแต่สมัยโบราณ เกาะอะโอชิมะถูกยกย่องว่าเป็น “เกาะที่มีเทพสถิตอยู่” ผู้คนทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ด้านในของเกาะเป็นเวลานาน จึงต้องสวดมนต์อยู่บริเวณชายฝั่งด้านนอกเพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
เชื่อกันว่าศาลเจ้าถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยเฮอัน (ศตวรรษที่ 8–12) และในเวลานั้นเกาะแห่งนี้ก็มีบทบาทในฐานะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต่อมาในสมัยเอโดะ (ศตวรรษที่ 17–19) แคว้นโอบิ ซึ่งปกครองพื้นที่ตอนใต้ของมิยาซากิ ได้สนับสนุนการบูรณะและการดูแลศาลเจ้า ทำให้ศาลเจ้ามีรูปแบบคล้ายกับปัจจุบัน
ในปี 1737 มีการอนุญาตให้ผู้ศรัทธาจากแคว้นอื่นมาเยือนผ่านเส้นทางริมชายหาด และการเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าสู่ด้านในของเกาะและตัวศาลเจ้าอย่างแท้จริงเริ่มขึ้นช่วงปลายทศวรรษ 1960

โทริอิที่ตั้งอยู่ทางเข้าศาลเจ้าโดดเด่นเป็นอย่างมากบนทิวทัศน์ของทะเลสีฟ้า ทรายขาว และพืชเขตร้อนสีเขียวเข้ม ความแตกต่างของสีเหล่านี้ทำให้โทริอิสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของเกาะอะโอชิมะ

พื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยพืชพรรณกึ่งเขตร้อน การผสมผสานของ “ศาลเจ้า × บรรยากาศเขตร้อน” จึงเป็นทัศนียภาพที่หาได้ยากในญี่ปุ่น
ในวันที่แดดจัด สีแดงของโทริอิจะยิ่งสว่างสดใส ภาพพระอาทิตย์ตกก็ให้โทนสีอบอุ่นที่สวยงาม และในวันที่มีเมฆมาก โทริอิยังคงโดดเด่นอย่างสง่างาม ทำให้เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมไม่ว่าจะเวลาใด

ทิวทัศน์ริมทะเลและโทริอิที่รายล้อมด้วยต้นไม้เขตร้อน เป็นหนึ่งในเสน่ห์สำคัญของศาลเจ้าอะโอชิมะ


ชายฝั่งของเกาะอะโอชิมะเต็มไปด้วยหินรูปทรงแปลกตาที่เรียกว่า “โอนิโนะเซนทาคุอิตะ” หรือ “เขียงซักผ้าของยักษ์” แนวหินที่เป็นเส้นตรงซ้ำ ๆ เหล่านี้เกิดจากกระแสน้ำกัดเซาะชั้นหินทรายและดินดาน จนทำให้เกิดเป็นลายเส้นธรรมชาติยาวไปตามริมทะเล และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติของประเทศ

ลักษณะของแนวหินจะแตกต่างกันไปตามสภาพอากาศและความใสของน้ำทะเล ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เส้นลายของหินจะถูกขับเน้นด้วยสีฟ้าของทะเลและสีขาวของหาดทราย ส่วนในวันที่มีเมฆมาก แสงนุ่ม ๆ จะทำให้ลายหินดูโดดเด่นเป็นพิเศษ เมื่อเป็นช่วงน้ำลง หินจะโผล่พ้นน้ำมากขึ้น ทำให้สามารถเดินชมลวดลายเหล่านี้ได้ใกล้ชิด

ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม ซึ่งคุณจะได้เพลิดเพลินกับ “ทะเล × หาดทรายขาว × ลายหินธรรมชาติ” อันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะอะโอชิมะในที่เดียว
ศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าอะโอชิมะเป็นอาคารสีแดงสดที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นท่ามกลางพืชพรรณแบบกึ่งเขตร้อน สีสันของอาคารศาลเจ้าตัดกับสีเขียวเข้มของต้นไม้อย่างงดงาม เป็นทิวทัศน์ที่พบได้ไม่บ่อยในศาลเจ้าญี่ปุ่นทั่วไป

เทพเจ้าประธานคือ “ฮิโคโฮโฮเดมิโนะมิโคโตะ” ผู้เป็นที่รู้จักว่าเป็นยามาซาจิฮิโกะในตำนานญี่ปุ่น ผู้คนศรัทธาในด้านความรัก ความปลอดภัยทางทะเล และการคลอดบุตรอย่างราบรื่น
ศาลเจ้าหลักเป็นศูนย์กลางแห่งความศรัทธา สีแดงสดของอาคารตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ทำให้ทัศนียภาพของศาลเจ้าแห่งนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่งดงามอย่างยิ่ง


ภายในบริเวณศาลเจ้ามี “เส้นทางแห่งคำอธิษฐาน” ทางเดินแคบที่ประดับด้วยแผ่นเอมะนับไม่ถ้วนเรียงตัวอยู่เหนือศีรษะ เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูสีแดงสด จะพบกับทางเดินที่โอบล้อมด้วยพืชพรรณเขตร้อน เอมะที่ไหวไปมาตามแสงแดดที่ลอดผ่านต้นไม้ช่วยสร้างบรรยากาศเงียบสงบ

เอมะที่แขวนเป็นแนวยาวให้ความรู้สึกเหมือนคำอธิษฐานที่ทับซ้อนกันเป็นชั้น ๆ และเมื่อเดินไปเรื่อย ๆ จะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของความปรารถนาที่ผู้คนฝากไว้ที่นี่ เส้นทางนี้เป็นสถานที่ที่ผสานวัฒนธรรมความเชื่อกับทิวทัศน์แบบเขตร้อนได้อย่างลงตัว


ทั้งสองข้างทางมีเอมะจำนวนมาก ซึ่งหลายชิ้นเขียนคำอธิษฐานเกี่ยวกับความรัก ทำให้เห็นถึงเหตุผลที่ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่รักของผู้คนมาช้านาน แสงแดดลอดผ่านใบไม้และเสียงเอมะที่ลู่ไปตามลมช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย


ภายในบริเวณศาลเจ้ามีป่าเขตร้อนที่ให้ความรู้สึกราวกับเดินอยู่ในป่าลึกของต่างประเทศ ต้นไม้สูงใหญ่ปกคลุมเป็นร่มเงา ดวงอาทิตย์ส่องลอดผ่านช่องใบไม้สร้างบรรยากาศลึกลับและสงบเงียบ

เกาะทั้งเกาะมีพืชเขตร้อนหนาแน่น เช่น ต้นปาล์มชนิดบิโรว ทำให้เกิดทัศนียภาพที่พบได้ยากในศาลเจ้าญี่ปุ่น ยิ่งเดินลึกเข้าไป บรรยากาศแบบอะโอชิมะก็ยิ่งชัดเจนขึ้น

ป่าภายในบริเวณศาลเจ้าได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์ธรรมชาติพิเศษของประเทศ ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาตินี้คือเหตุผลว่าทำไมศาลเจ้าอะโอชิมะจึงถูกเรียกว่า “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์กลางทะเลเขตร้อน” เป็นจุดชมความงามอีกแบบที่แตกต่างจากทิวทัศน์ริมทะเลใกล้โทริอิ

ในส่วนที่ลึกที่สุดของเกาะคือ “โมโตมิยะ” ศาลเจ้าแห่งแรกเริ่มของอะโอชิมะ อาคารสีแดงที่ปรากฏขึ้นอย่างเงียบสงบท่ามกลางป่าเขตร้อนให้บรรยากาศเหมือนฉากหนึ่งในตำนาน

โมโตมิยะถือเป็นศูนย์กลางของพิธีกรรมในยุคโบราณ มีประวัติยาวนานกว่าศาลเจ้าหลักในปัจจุบัน และเกี่ยวข้องกับตำนานของยามาซาจิฮิโกะ เชื่อกันว่านี่คือจุดกำเนิดของศรัทธาบนเกาะแห่งนี้

ต่างจากบรรยากาศอันโดดเด่นของศาลเจ้าหลัก บริเวณโมโตมิยะเป็นสถานที่ที่เงียบสงบเสมอ เหมาะสำหรับการตั้งใจสวดมนต์และสัมผัสเสน่ห์ของธรรมชาติและตำนานที่หลอมรวมกันเป็นเอกลักษณ์ของอะโอชิมะ

ภายในบริเวณศาลเจ้ามี “อาเมะโนะมิโฮชิระเมะกุริ” พิธีขอพรความรักที่เชื่อมโยงกับเรื่องราวในโคจิกิ คู่รักจะเดินเข้ากรอบรูปหัวใจจากคนละด้านเพื่อภาวนาให้ความรักมั่นคง

หลายคนมาถ่ายรูปที่กรอบรูปหัวใจ ทำให้ที่นี่เป็นทั้งสถานที่ขอพรและจุดถ่ายภาพสร้างความทรงจำ
ศาลเจ้าอะโอชิมะมีพิธีเสี่ยงทายแบบพิเศษ 2 รูปแบบ ซึ่งให้ทั้งความสนุกและความศักดิ์สิทธิ์ไปพร้อมกัน
พิธีแรก “มิตามะชินจิ” คือการเป่าลมลงบนลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ และปล่อยให้ลูกแก้วไหลไปตามแผ่นไม้เหมือนเกมพินบอล ตำแหน่งที่ลูกแก้วตกจะบอกถึงสภาพจิตใจและโชคชะตาในขณะนั้น

พิธีที่สอง “ไซโนะเมะชินจิ” คือการทอยลูกเต๋าไม้ขนาดใหญ่พร้อมกล่าวว่า “โอชิเอตาเมะ มิชิบิตาเมะ” หน้าลูกเต๋าที่ออกมา เช่น “โชคดี” “ความรัก” “การเรียน” หรือ “ปัดเป่าภัย” จะเป็นคำแนะนำที่คุณควรรับไว้ในตอนนั้น

ทั้งสองพิธีเป็นประสบการณ์ที่มีเฉพาะบนเกาะอะโอชิมะ เพิ่มสีสันให้การเยี่ยมชมศาลเจ้าและน่าลองอย่างยิ่ง
คุณสามารถไปศาลเจ้าอะโอชิมะได้ทั้งรถไฟ รถบัส และรถยนต์ เราได้จัดทำบทความแยกต่างหากที่อธิบายเวลาการเดินและตำแหน่งที่จอดรถโดยละเอียด
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเดินทางไปศาลเจ้าอะโอชิมะ
เมื่อก้าวผ่านทางเดินทรายสีขาว คุณจะพบกับบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ท่ามกลางพืชพรรณเขตร้อน เดินลึกเข้าไปจะพบเส้นทางแห่งคำอธิษฐาน และเมื่อมาถึงโมโตมิยะจะได้สัมผัสความสงบลึกซึ้ง ศาลเจ้าอะโอชิมะคือสถานที่ซึ่งทะเล ป่าเขตร้อน และความศรัทธาโบราณหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

เส้นลายของโอนิโนะเซนทาคุอิตะ เสียงเอมะที่ไหวตามลม และสีแดงสดของศาลเจ้าที่ตัดกับสีเขียวเข้มของป่า ทำให้ทุกช่วงเวลาบนเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ไม่ซ้ำใคร
ไม่ว่าคุณจะมาขอพรความรัก หรือเดินเล่นเพื่อสัมผัสบรรยากาศลึกลับของเกาะเขตร้อน ศาลเจ้าแห่งนี้จะมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้คุณอย่างแน่นอน
