สถานที่พักใจกลางเมืองฮิโรชิมา? แนะนำสวนญี่ปุ่น “ชุคเคเอ็น” ที่เต็มไปด้วยความสงบและความงดงาม
เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวฮิโรชิมา หลายคนอาจนึกถึงโดมปรมาณูหรือเกาะมิยาจิม่าเป็นอันดับแรก แต่สำหรับผู้ที่มองหาสถานที่เงียบสงบและไม่ซ้ำใคร “สวนชุคเคเอ็น” ที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านใจกลางเมืองฮิโรชิมา คือหนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาด
สวนแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ต้นสมัยเอโดะ เต็มไปด้วยบรรยากาศที่สงบและธรรมชาติอันสวยงามในแต่ละฤดู แม้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว แต่ก็เป็นสถานที่ที่คุณจะสามารถค้นพบ “ความผ่อนคลาย” ได้อย่างแท้จริง
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักประวัติของสวน จุดเด่นในแต่ละมุม ความงามในแต่ละฤดู และข้อมูลการเดินทาง หากคุณกำลังวางแผนเที่ยวฮิโรชิมา อย่าลืมเช็กสถานที่แห่งนี้ไว้ในลิสต์
สวนชุคเคเอ็น

สวนชุคเคเอ็นสร้างขึ้นในปี 1620 โดยเจ้าเมืองฮิโรชิมาชื่ออาซาโนะ นางาอากิระ ได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิประเทศอันงดงามของประเทศจีน ชื่อ “ชุคเค” จึงมีความหมายว่า “ภูมิทัศน์ย่อส่วน”
ภายในสวนมีทั้งบ่อน้ำ เนินเขาจำลอง และเรือนน้ำชา เคยเป็นที่ชื่นชอบของชนชั้นสูงและศิลปินมาแต่โบราณ ถึงแม้จะได้รับความเสียหายอย่างหนักจากระเบิดปรมาณู แต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ และปัจจุบันกลายเป็นจุดรวมทางวัฒนธรรมใกล้กับพิพิธภัณฑ์ศิลปะฮิโรชิมา และได้รับความนิยมทั้งจากคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว
- เวลาทำการ
- 16 มีนาคม – 15 กันยายน 9:00 - 18:00
- 16 กันยายน – 15 มีนาคม 9:00 - 17:00
- วันหยุดประจำ
- 29 – 31 ธันวาคม
- หมายเลขโทรศัพท์
- +081-82-221-3620
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
- https://shukkeien.jp/
- วิธีการเยี่ยมชม
- เดิน 1 นาทีจากสถานี Hiroden Shukkeien - mae
- เดิน 10 นาทีจากสถานี JR Hiroshima
- เดิน 8 นาทีจากปราสาทฮิโรชิมา
- ที่อยู่
- 2 - 11 Kaminobori - cho, Naka - ku, Hiroshima 730 - 0014 ประเทศญี่ปุ่น
ความงดงามที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล เดินชมสวนชุคเคเอ็นในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว

สวนชุคเคเอ็นเป็นสถานที่ที่คุณสามารถสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลได้อย่างลึกซึ้ง ในฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกซากุระผลิบาน ฤดูร้อนมีใบไม้เขียวชอุ่มไหวตามลม ฤดูใบไม้ร่วงใบไม้เปลี่ยนสีสวยสด และในฤดูหนาวก็ปกคลุมไปด้วยหิมะอันเงียบสงบ
เสน่ห์ของสวนแห่งนี้คือการที่คุณจะได้พบกับทัศนียภาพที่ต่างออกไปในแต่ละฤดูกาล ด้านล่างนี้คือความงดงามของชุคเคเอ็นในแต่ละช่วงเวลา
ฤดูใบไม้ผลิ|ความตัดกันระหว่างดอกบ๊วย ดอกซากุระ และใบไม้เขียวอ่อน

ในฤดูใบไม้ผลิ สวนจะเต็มไปด้วยสีสันสดใสของดอกบ๊วยและซากุระราว 130 ต้นที่ผลิบานทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณรอบบ่อน้ำที่มีซากุระกับใบไม้เขียวอ่อนเพิ่งผลิใหม่สร้างภาพที่งดงามเป็นพิเศษ

ในช่วงเทศกาลดอกซากุระ จะมีการประดับไฟตอนกลางคืน ซึ่งให้บรรยากาศชวนฝันแตกต่างจากช่วงกลางวัน เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่คุณจะได้เพลิดเพลินตลอดทั้งวัน
ช่วงเวลาที่ถูกโอบล้อมด้วยแสงอ่อน ๆ และสีสันอันอบอุ่นนี้ เป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้สัมผัสถึง “ความเยียวยา” ที่สวนชุคเคเอ็นมอบให้
ฤดูร้อน|ความสดชื่นของใบไม้เขียวและดอกอาจิไซ

ในฤดูร้อน สวนชุคเคเอ็นจะเต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มของต้นไม้ เช่น เมเปิ้ลและสน ให้ร่มเงาเย็นสบายแม้ในวันที่แดดแรง ทำให้สามารถเดินชมสวนได้อย่างเพลิดเพลิน

ดอกอาจิไซ (ไฮเดรนเยีย) ก็จะผลิบานเติมแต่งสีสันให้กับสวน และเมื่อฝนตก ละอองฝนที่เกาะบนกลีบดอกและหินจะสร้างบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกสงบ เสียงน้ำไหลและใบไม้ไหวช่วยปลอบประสาททั้งตาและหู เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เวลาสงบ ๆ อย่างแท้จริง
ฤดูใบไม้ร่วง|โทนสีแดงส้มของใบไม้ที่แต่งแต้มสวน สงบแต่เร่าร้อนในแบบฤดูใบไม้ร่วง

เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ทั่วทั้งสวนจะเปลี่ยนสีเป็นแดง ส้ม และเหลือง เพิ่มความงดงามในแบบสงบลุ่มลึก บริเวณรอบบ่อน้ำหรือบนเนินก็สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างเต็มที่

ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือกลางเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน โดยจะมีงานเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี “โมมิจิมัตสึริ” และในตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟทั่วสวน แสงไฟที่สะท้อนกับน้ำและใบไม้สร้างบรรยากาศสุดแสนวิเศษที่ต่างจากกลางวัน


ภาพความสงบในเวลากลางวันและความเปล่งประกายในยามค่ำคืน—ทั้งสองอย่างเป็นเสน่ห์ของฤดูใบไม้ร่วงที่สวนชุคเคเอ็น
ฤดูหนาว|อากาศเย็นสงบและทิวทัศน์สีขาว ความงามของสวนชุคเคเอ็นในฤดูหนาว
ในฤดูหนาว จำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลง ทำให้ความสงบของสวนยิ่งเด่นชัด หากคุณโชคดี คุณอาจได้เห็นหิมะตกปกคลุมเนิน หิน และโคมไฟ กลายเป็นภาพสวนสีขาวที่งดงาม

หิมะที่เกาะบนหิน กิ่งไม้ และผิวน้ำ ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่สงบและเยือกเย็น สื่อถึงความงามดั้งเดิมของสวนญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

เหตุผลที่ทำให้สวนแห่งนี้งดงาม — จุดเด่นที่สร้างความสงบและความสวยงามของสวนชุคเคเอ็น
ความงามของสวนชุคเคเอ็นไม่ได้มีแค่ทิวทัศน์ตามฤดูกาลเท่านั้น ภายในสวนยังมีจุดที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และการออกแบบที่วิจิตรอันเป็นเอกลักษณ์
ต่อไปนี้คือจุดที่ไม่ควรพลาดเมื่อคุณมาเยือนสวนแห่งนี้ แนะนำให้หยุดพักชื่นชมและดื่มด่ำกับความงามในแต่ละมุม
สะพานโคโคเคียว (Koko Bridge)

สะพานหินทรงโค้งที่ตั้งอยู่กลางสวนแห่งนี้เรียกว่า “สะพานโคโคเคียว” ได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงโค้งเหมือนสายรุ้งที่เชื่อมระหว่างโลกกับสวรรค์ สร้างขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1780 โดยช่างสวนจากเกียวโต ตามคำสั่งของเจ้าเมืองรุ่นที่ 7 อาซาโนะ ชิเงอากิระ
สะพานแห่งนี้ยังคงยืนหยัดอยู่ได้แม้จะเผชิญกับแรงระเบิดจากสงคราม และเป็นสัญลักษณ์แห่งความงดงามสงบของสวนชุคเคเอ็น ดึงดูดให้ผู้มาเยือนหยุดชมอย่างเป็นธรรมชาติ

ศาลาน้ำชาเซฟูคัง (Seifukan)

เซฟูคังเป็นศาลาน้ำชาที่สร้างตามสไตล์สุกิยะซึคุริ ซึ่งเน้นความเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความงามแบบญี่ปุ่น อาคารนี้กลมกลืนกับความสงบของสวนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นปี 1894 ศาลานี้เคยถูกใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ขณะย้ายกองบัญชาการใหญ่จากโตเกียวมายังฮิโรชิมา และปราสาทฮิโรชิมากลายเป็นกองบัญชาการหลัก
ปกติศาลานี้จะไม่เปิดให้เข้าชมทั่วไป แต่ในบางโอกาส เช่น งานพิธีชงชา ก็จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้
ป่าไผ่

อีกหนึ่งมุมที่เงียบสงบที่สุดในสวนคงหนีไม่พ้นเส้นทางเดินผ่านป่าไผ่ ไผ่สูงเรียงรายขึ้นไปแตะท้องฟ้า บรรยากาศเงียบสงบราวกับเสียงรอบตัวถูกดูดกลืนไป
ต่างจากส่วนอื่น ๆ ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ป่าไผ่คงความงามสงบได้ตลอดทั้งปี ในฤดูร้อนจะมีลมเย็นพัดผ่าน และในวันที่ฝนตก บรรยากาศจะยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้น
หากคุณมาในช่วงที่คนไม่พลุกพล่าน จะได้ยินเพียงเสียงใบไผ่เสียดสีและเสียงเท้าเหยียบกรวด เหมือนกับว่าเวลาหยุดนิ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและปล่อยใจให้กับความสงบ
ไฮไลต์อีกอย่างคือช่วงเทศกาลดอกซากุระ ซึ่งมีการประดับไฟในยามค่ำคืน แสงสีเขียวของไผ่ตัดกับสีชมพูของซากุระอย่างงดงาม ควรค่าแก่การชมสักครั้งในชีวิต
วิธีเดินชมสวนชุคเคเอ็น
สวนชุคเคเอ็นออกแบบตามรูปแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เรียกว่า “ชิเซ็นไคยูชิกิ” (การจัดสวนแบบมีสระน้ำตรงกลางและทางเดินวนรอบ)
แหล่งที่มา: แผนที่สวน - เว็บไซต์ทางการของสวนชุคเคเอ็น
เพียงเดินวนไปรอบ ๆ สระน้ำ ทัศนียภาพก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เหมือนกับกำลังเปิดชมภาพวาดเรื่องเล่าแบบม้วนกระดาษญี่ปุ่น


สวนถูกออกแบบอย่างประณีต โดยมีเนินสะพาน ศาลาน้ำชา วางเรียงกันอย่างลงตัวตามสายตา รวมทั้งใช้เทคนิค “ชักเค” (การยืมทิวทัศน์จากภูเขาด้านนอก) เพื่อให้รู้สึกถึงความกว้างขวางแม้อยู่ภายในสวน
หากคุณอยากซึมซับความงามของงานออกแบบสวนแบบญี่ปุ่น แนะนำให้เดินช้า ๆ และเพลิดเพลินกับการเปลี่ยนแปลงในทุกย่างก้าว
แผนที่ของสวนสามารถดูได้ที่ โบรชัวร์ มีทั้งภาษาไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน และฝรั่งเศส
เวลาที่ใช้ในการเดินชมรอบสวนประมาณ 40–50 นาที หรือหากต้องการเส้นทางสั้นแบบครึ่งรอบ จะใช้เวลาประมาณ 20–30 นาที
เวลาที่ถูกโอบล้อมด้วยความเงียบ — ดื่มด่ำกับสวนญี่ปุ่นอันงดงาม “ชุคเคเอ็น” ในเมืองฮิโรชิมา

สวนชุคเคเอ็นไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่คึกคัก แต่เป็นสวนที่เต็มไปด้วยความสงบและความงาม ทัศนียภาพที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล สะพานและศาลาเก่าแก่ ป่าไผ่อันสงบร่มรื่น ทุกอย่างผสานกันอย่างกลมกลืน

การได้ละทิ้งความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน แล้วปล่อยใจให้ไหลไปตามจังหวะของธรรมชาติที่นี่ จะกลายเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่มีวันลืม

หากคุณมีโอกาสมาเยือนฮิโรชิมา อย่าพลาดที่จะมาเยี่ยมชมสวนชุคเคเอ็น ที่นี่คือสถานที่แห่งความงดงามที่แท้จริง และความประทับใจอันลึกซึ้งที่ไม่มีเสียง
